ความรู้ที่ได้รับในวันนี้
ศิลป์ คือ ความงามของภาษา
ภาพพจน์ คือ ถ้อยคำที่ทำให้เกิดภาพ
ภาพลักษณ์ คือ แทนตัวเรา แทนสิ่งของ
โวหาร
ความหมายของโวหาร
โวหารหมายถึงกลวิธีในการใช้ภาษาด้วยการเลือกสรรถ้อยคำมาเรียบเรียงในการการเขียนเรื่องราวต่องๆ หรือพูดให้มีความหมายสละสลวย เหมาะสม ชัดเจน เพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์
ประเภทของโวหาร
1 บรรยายโวหาร คือ การบอกเล่าเรื่องราวที่เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
2 พรรณนาโวหาร คือ การเขียนบรรยายที่มุ่งเน้นให้ผู้อ่านเห็นเป็นภาพ มุ่งเน้นให้เห็นอารมณ์ ความรู้สึก
3 เทศนาโวหาร คือ การแนะนำสั่งสอนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม
4 อุปมาโวหาร คือ การเขียนเปรียบเทียบให้เกิดความคมคายให้เห็นภาพ
5 สาธกโวหาร คือ การยอกตัวอย่างเรื่องราวประกอบเนื้อเรื่อง
ภาพพจน์
ภาพพจน์คือถอยคำที่เรียบเรียงเป็นสำนวนที่ไม่กล่าวตรงไปตรงมาแต่ทำให้เกิดภาพและถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างกว้างขวาง
ประเภทของภาพพจน์
อุปมา คือ การเปรียบเทียบที่คำเชื่อมมีความหมายว่าเหมือน (การเปรียบเหมือน)
อุปลักษณ์ คือ การกล่าวเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง (เปรียบเป็น)
อธิพจน์ คือ การกล่าวเกินจริง
อวพจน์ คือ การกล่าวน้อยกว่าความเป็นจริง
สัญลักษณ์ คือ การเรียกชสิ่งหนึ่งโดยใช้คำอื่นมาแทน
นามนัย คือ มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่อยู่ในสิ่งเปรียบเทียบด้วย
สัทพจน์ คือ การเลียนเสียงธรรมชาติ
บุคคลวัต คือ การทำสิ่งไม่มีชีวิตให้มีชีวิต
ปฎิพจน์ คือ การใช้คำที่มีความหมายขัดแย้งกันมาเข้าคู่กันอย่างกลมกลืน สร้างความสะเทือนใจ และให้สารลึกซึ้งกินใจ
สิ่งที่ประทับใจและสามารถปรับใช้กับเราได้
คำว่า ภาพพจน์ ซึ่งแต่ก่อนพูดกับเพื่อนเป็นประจำว่า "เธอพูดแบบนี้เสียภาพพจน์ฉันหมด"
ซึ้งที่จริงแล้ว การใช้คำว่าภาพพจน์ นั้นผิดมาโดยตลอด สิ่งที่ถูกต้อง คือ ต้องใช้คำว่า ภาพลักษณ์
แทน ซึ่งนับว่าเป็นความรู้ใหม่ที่ได้รับ เมื่อได้รู้ว่าที่ถูกเป็นอย่างไร เราก็จะไม่ใช้คำพูดที่ผิดนั้นอีก
สรุปได้ดีครับ ไม่เยอะมากจนอ่านยากครับ
ตอบลบสรุปเนื้อหาได้ค่ะ อ่านแล้วทำให้เข้าใจง่าย ไม่งง
ตอบลบเนื้อหาเข้าใจง่ายค่ะ ได้ทราบความแตกต่างระหว่าง ภาพพจน์กับภาพลักษณ์
ตอบลบสรุปเนื้อหาได้กระชับและได้ใจความค่ะ เข้าใจง่าย
ตอบลบมีการเขียนที่ดี และ เข้าใจได้ง่ายดีค่ะ
ตอบลบ